ศาสตราจารย์ ดร.ภก.จีรเดช มโนสร้อย และ ศาสตราจารย์ ดร.ภญ.อรัญญา มโนสร้อย ผู้บริหารศูนย์วิจัยสุขภาพและความงาม มาโนเซ่ เชียงใหม่ ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรดีเด่นระดับชาติ Prime Minister Herbal Awards (PMHA) ประจําปี 2564” ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพร “ไลโปเซ่” ซึ่งเป็นผลงานวิจัยและพัฒนาโดยมาโนเซ่ จาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ในวันอังคารที่ 22 ธันวาคม 2564 ระหว่างเวลา 10.00 – 12.00 น. ศาสตราจารย์ ดร.ภก. จีรเดช มโนสร้อย ประธานกรรมการ และ ศาสตราจารย์ ดร.ภญ. อรัญญา มโนสร้อย กรรมการบริหารและผู้จัดการ ศูนย์วิจัยสุขภาพและความงาม มาโนเซ่ เชียงใหม่ ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรดีเด่นระดับชาติ Prime Minister Herbal Awards (PMHA) ประจําปี 2564” ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพร “ไลโปเซ่” ซึ่งเป็นผลงานวิจัยและพัฒนาโดยมาโนเซ่ จาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจําปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 18 เรื่อง “กัญชานำไทย สมุนไพรสร้างชาติ” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 26 ธันวาคม 2564 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สถาบันการแพทย์แผนไทย ได้คัดเลือกผู้ประกอบการและผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นระดับชาติ (PMHA) ประจำปี 2564 ให้ได้รับรางวัลดังกล่าวภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการและให้คำปรึกษาสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ได้เกณฑ์มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ และพัฒนาโครงสร้างอุตสาหกรรมสมุนไพรให้มีศักยภาพที่เข้มแข็งและเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสมุนไพร

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ไลโปเซ่” ที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรตินี้ ประกอบด้วยสารสกัดผสมจากสมุนไพรไทยที่ปรากฎในตำรับยาสมุนไพรในฐานข้อมูล “มโนสร้อย 3” ได้แก่ ถั่วแขก (Phaseolus vulgaris L.), ข่า (Alpinia galanga (L.) Willd.) และผงฝรั่ง (Psidium guajava L.)

สารสกัดสมุนไพรผสมจากตำรับยาสมุนไพรไทยที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ “ไลโปเซ่” นี้ ออกฤทธิ์ 3 กลไก (3 in 1) ต่ออาหารที่รับประทาน คือฤทธิ์ลดการดูดซึมของไขมัน 1 กลไก และฤทธิ์ยับยั้งการย่อยแป้งและน้ำตาลอีก 2 กลไก โดยไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 3 ชนิด คือ lipase, a-amylase, และ a-glucosidase ที่ย่อยไขมัน/แป้งและน้ำตาล ตามลำดับ ทำให้ไขมัน/แป้งและน้ำตาลไม่ถูกย่อยเป็นโมเลกุลเล็กจึงทำให้ไม่สามารถถูกดูดซึมเข้าร่างกายได้ Lypose มีฤทธิ์สูงกว่ายามาตรฐานที่ใช้ควบคุมน้ำหนักและลดระดับน้ำตาลในเลือด (Orlistat และ Acarbose) Lypose สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องอดอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติและไม่ทำให้เกิดอาการท้องอืด จากผลการทดสอบในอาสาสมัคร พบว่า Lypose สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีนัยสำคัญภายในระยะเวลา 2 เดือนโดยไม่มีอาการข้างเคียง โดยลดได้ 2 – 5 กิโลกรัม ภายใน 2 เดือน ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของการลดน้ำหนักว่าควรลดลง 1.80 – 3 กิโลกรัมต่อเดือน